วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554

invisible signal สัญญาณที่มองไม่เห็น



หลายคนอาจจะพูดว่ามีด้วยหรือสัญญาณที่มองไม่เห็น หากเป็นสัญญาณแล้วเราจะต้องสามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้ เช่นสัญญาณจราจร เสียงสัญญาณไฟไหม้ เสียงสัญญาณเตือนภัยซึนามิ แม้แต่สัญญาณชีพจรหรือสัญญาณสมองของคนไข้ก็มองเห็นสัมผัสได้ผ่านเครื่องมือทางการแพทย์ ทุกวันนี้วิชาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าและทันสมัยเป็นอย่างมาก มนุษย์รู้จักคิดและประดิษฐ์สิ่งต่างๆขึ้นมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การดำรงชีพและการอยู่ร่วมกัน

แล้วอะไรคือสัญญาณที่มองไม่เห็น บางคนคิดไปถึงโน้นเลยครับ..ความตาย..ซึ่งก็ไม่ผิดที่จะคิดเช่นนั้นเพราะเราต่างก็ไม่มีใครทราบว่าตัวของเราจะหมดลมหายใจเมื่อใด ไม่แน่ว่าวันนี้ พรุ่งนี้ สัปดาห์นี้ เดือนนี้หรือปีนี้ก็เป็นได้ ดูตัวอย่างเมื่อวันที่16 กรกฎาคม2554 ที่มีเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้ของทหารที่ปฏิบัติหน้าจับกุมชนกลุ่มน้อยและผู้ที่บุกรุกทำลายป่าตกในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 5 นายที่ปฏิบัติงานอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นต้องเสียชีวิตทั้งหมด เหล่าทหารที่อยู่พื้นราบเมื่อทราบข่าวก็หาทางขึ้นไปกู้ซากเครื่องบินและพาร่างผู้ที่เสียชีวิตลงมา ขณะที่เตรียมตัวและวางแผนปฏิบัติการอยู่นั้นทุกคนมีความมุ่งมั่นว่าจะต้องขึ้นไปช่วยกันพาร่างผู้เสียชีวิตกลับลงมาให้ได้ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆก็ให้ความสนใจเข้าไปทำข่าวเพื่อเผยแพร่ให้ญาติและผู้ที่อยู่ทางบ้านได้ทราบความเคลื่อนไหวและสามารถส่งกำลังใจไปให้ความช่วยเหลือกันได้

ด้วยความหวังว่าคงจะมีผู้รอดชีวิตอยู่บ้าง ทีมงานจึงกุลีกุจอจัดแจงทุกอย่างๆรีบด่วน โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงเข้าร่วมในการให้ความช่วยเหลือครั้งนี้ด้วยเป็นอย่างดีทั้งยังร่วมเดินทางไปอำนวยการในการปฏิบัติงานด้วยตนเอง ทีมปฏิบัติงานครั้งนี้ไปด้วยกันทั้งหมด 9 ชีวิต หนึ่งในนั้นมีผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง5 ติดตามขึ้นไปทำข่าวด้วย ก่อนที่เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์กจะยกตัวสูงขึ้นจากพื้นดิน ผู้บัญชาการทหารและทีมงานก็ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวด้วยความหวังอย่างเปี่ยมล้นว่าจะสามารถปฏิบัติงานครั้งนี้ได้ด้วยความสำเร็จ

วันที่ 19 กรกฎาคม 2554 เมื่อทุกอย่างพร้อม คนพร้อม เครื่องบินพร้อม ท้องฟ้าเปิดพอบินได้ เวลา 11.00 น นักบินก็ยกเครื่องขึ้นพาทีมงานทั้งหมดมุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ขณะที่เครื่องลอยตัวอยู่บนน่านฟ้านั้นฟ้ากลับเปลี่ยนเป็นสีหม่นฝนเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาเป็นอุปสรรคต่อการบินเป็นอย่างยิ่ง ทีมปฏิบัติงานได้มีการติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเพื่อรายงานความเคลื่อนไหวเป็นระยะๆอยู่ตลอดเวลา กระทั้งเมื่อเวลาผ่านไปได้ 30 นาที แบล็กฮอว์กน่าจะลอยลำอยู่ห่างจากจุดที่ดิวอี้ตกประมาณ1กิโลเมตรเท่านั้นแต่แล้วสัญญาณการติดต่อจากแบล็คฮอว์กก็ขาดหายไปอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เมื่อติดต่อกันไม่ได้ความมืดมนหม่นหมองของท้องฟ้าเบื้องบนที่ปกคลุมด้วยกลุ่มเมฆอันดำทมึนก็เคลื่อนเข้ามาครอบคลุมจิตใจของเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินให้มืดมนหม่นหมองไปด้วยเช่นกัน

ก่อนออกเดินทางคณะปฏิบัติงานก็ได้สร้างขวัญและกำลังใจด้วยการจุดธูปบอกแม่ธรณี เจ้าป่าเจ้าเขาให้ทำการคุ้มครองคณะให้ได้รับความปลอดภัยและประสบความสำเร็จในการช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัย พอถึงตอนที่จะปักธูปลงดินก็มีลางบอกเหตุที่ไม่มีใครอยากรับรู้และเชื่อว่าจะเป็นลางร้ายคือไม่สามารถปักธูปลงดินได้แม้ว่าจะพยายามกี่ครั้งก็ตาม …แม่ธรณีและเจ้าป่าเจ้าเขาไม่รับรู้แรงอธิฐาน… ในที่สุดก็พบว่าทีมช่วยเหลือทั้งเก้าชีวิตเสียชีวิตทั้งหมดจากอุบัติเหตุเครื่องตกท่ามกลางขุนเขาเลยเข้าไปในเขตประเทศพม่า

ข่าวการสูญเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นติดกันถึงสองครั้งสองคราได้สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับผู้ที่ได้ยินได้ฟัง เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง ลูกเมียและที่สำคัญคือพ่อแม่ของท่านทั้งหลายเหล่านั้น เสียงร่ำไห้โหยหวนระคนกับเสียงสะอึกสะอื้นนั้นดังกึกก้องราวฟ้าพิโรธ น้ำตาที่หลั่งไหลออกมาจากดวงตาอันหมองหม่นทุกคู่พรั่งพรูราวสายฝนที่พร่างพรมลงมาจากเมฆสีหม่นที่คลุมฟ้าเมืองไทยอยู่ในขณะนั้น

กองทัพไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทัพบกเมื่อสูญเสียกำลังพลและอากาศยานติดๆกันถึงสองครั้งจึงได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างไรความรับผิดชอบต่อหน้าที่เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง ทุกคนจึงแข็งใจและระดมกำลังใจจากทุกฝ่ายเพื่อให้การปฏิบัติการกู้ศพและซากเครื่องบินกลับให้ได้ ศูนย์การบินกองทัพบกที่มีนักบินมากความสามารถและทักษะทางการบินจึงได้จัดนักบินพร้อมเครื่องบินขึ้นบินอีกครั้งหนึ่งเพื่อนำศพเพื่อนทหารทั้งหมดและศพผู้สื่อข่าวกลับออกมาบำเพ็ญกุศล

ดังนั้นวันที่ 24 กรกฎาคม 2554 เครื่อเบลล์212 จึงได้ทยานขึ้นสู่อากาศอีกครั้งหนึ่งท่ามกลางบรรยากาศที่ปลอดโปร่งปราศจากเมฆหมอกที่จะเป็นอุปสรรค์ในการบิน ไม่ว่านักบิน ทหารผู้ติดตามและฝ่ายสนับสนุนที่อยู่เบื้องล่างต่างก็มีความเชื่อมั่นว่าการทำงานวันนี้จะบรรลุผลสำเร็จและแม้ว่าบรรยากาศในการทำงานจะเต็มไปด้วยความหดหู่แต่ทุกคนก็มีกำลังใจ เบลล์212 ได้บินมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งที่แบล็คฮอกตกกระทั่งเวลาประมาณ10.00น ก็ได้รับแจ้งข่าวว่า เบลล์212ได้เกิดอุบัติเหตุตกอีกแล้ว ครั้งนี้ตกห่างจากจุดที่ฮิวอี้ตก 30กิโลเมตรมีนักบินเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 3 นายและมี1 นายที่รอดชีวิตได้ราวปาฏิหาร นับว่าเป็นอุบัติเหตุเครื่องบินของกองทัพบกตกติดต่อกันเป็นครั้งที่3 ภายในเวลา 9 วันในภาระกิจเดียวกัน จากเหตุการณ์ครั้งนี้มีคำถามว่าท่านที่เสียชีวิตทั้ง17ท่านนี้ทราบล่วงหน้ามาก่อนหรือไม่ว่าจะต้องเสียชีวิต มีอะไรเป็นสัญญาณบอกเหตุล่วงหน้าแก่ท่านเหล่านั้นก่อนที่จะขึ้นบินหรือไม่

นอกจากเหตุการณ์ที่กล่าวมาแล้วยังมีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ผมประสบมาด้วยตัวเองคือ
เมื่อไม่นานมานี้ในช่วงนั้นเป็นช่วงครบรอบการทำพิธีเคารพศพและวิญญาณบรรพบุรุษและญาติที่ล่วงลับไปแล้วเรียกว่าการทำพิธี เช็งเม้ง ในพิธีนี้ทุกครอบครัวก็จะจัดเตรียมอาหารเครื่องหวานคาว ผลไม้ ดอกไม้ธูปเทียนและสิ่งต่างๆที่ลูกหลานอยากจะอุทิศให้กับญาติๆที่ล่วงลับไปแล้วเหล่านั้นได้มีไว้ใช้สอยเช่น รถยนต์ คนใช้ เสื้อผ้า เงินทองที่จำลองขึ้นมาจากกระดาษให้เสร็จสรรพก่อนที่จะถึงวันพิธี ลูกหลานที่อยู่ต่างจังหวัดก็จะกลับบ้านเพื่อเข้าร่วมพิธีกันอย่างพร้อมหน้า หนึ่งวันก่อนที่จะถึงวันพิธีผมและครอบครัวก็เดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเช่นกันเพื่อช่วยทางครอบครัวของภรรยาผมในการตระเตรียมงาน ตลอดทั้งวันพวกเราแทบจะไม่มีเวลาพักกันเลยตั้งแต่ตื่นเช้าออกไปตลาดซื้อหมูซื่อผักซื้อปลาซื้อผลไม้นับเป็นปริมาณก็ประมาณว่าเลี้ยงคนได้ 20 คน พอสายๆหน่อยก็ช่วยกันบ้างก็โขลกน้ำพริก บ้างก็ล้างผักล้างผลไม้ บ้างก็หั่นหมูหั่นปลา บ้างก็เจียวกระเทียมเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้า พอถึงเวลาแม่ก็จะเป็นคนปรุงอาหารที่สุดแสนอร่อยเหล่านั้นเองทั้งหมด อร่อยจริงๆ ขอบอกปลาจารเม็ดตัวขนาดจานเปลทอดกรอบแล้วราดด้วยน้ำปรุงสามรส ต้มกระเพาะหมูผักกาดดอง หอยแครงตัวโตๆอ้วนๆ ลวกพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด กุ้งกุลาดำตัวโตๆเนื้อแน่นๆต้มเค็ม เส้นหมี่ขาวผัดซีอิ้วเต้าเจี้ยวใส่เต้าหู้เหลืองกับสันคอหมูนุ่มๆชิ้นโตๆตัดด้วยน้ำตาลปึกออกรสหวานเค็ม พวกเราก็ได้แต่คอยเป็นลูกมือในการหยิบจับสิ่งต่างๆ บางครั้งก็วิ่งไปตลาดซื้อของที่ลืมคิดถึงก่อนหน้าหรือพึ่งนึกได้ว่าต้องใช้ บางครั้งก็ซื้อมาครบแล้วแต่น้อยไปก็ต้องไปซื้อมาเพิ่ม กว่าจะทำอาหารและจัดเตรียมสิ่งต่างๆเสร็จก็ปาเข้าไปสามสี่ทุ่มเลยทีเดียว

ระหว่างที่เตรียมอาหารกันอยู่นั้นพี่ชายใหญ่ของภรรยาของผมก็เดินทางมาจากต่างจังหวัดในช่วงบ่ายหลังเลิกงาน ก่อนออกเดินทางพี่ชายใหญ่ก็โทรศัพท์มาแจ้งแม่ว่ากำลังจะออกเดินทางแล้ว ตอนนี้ได้เตรียมอะไรต่ออะไรมาบ้างและแม่ต้องการอะไรเพิ่มอีกบ้าง หากแม่ต้องการอะไรเพิ่มก็จะบอกไป ส่วนใหญ่แล้วแม่ก็จะไม่ต้องการอะไรเพิ่มเพราะสิ่งที่พี่ชายใหญ่นำมานั้นก็จะผ่านการคิดอย่างรอบคอบแล้วว่ามีอะไรบ้างที่จำเป็นและปฏิบัติเช่นนี้มาทุกปี ระยะทางที่พี่ชายใหญ่ต้องเดินทางมานั้นไกลพอสมควร ใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 8 ชั่วโมง กว่าจะมาถึงบ้านแม่ก็ราวตีหนึ่งตีสอง แล้วแต่เหตุการณ์ วันนั้นพี่ชายใหญ่เดินทางมากับพี่สะใภ้ ผลัดกันขับชวนกันคุยหิวก็กินง่วงก็จอดเปลี่ยนอิริยาบทให้หายง่วง จอดรถที่ไหนก็โทรศัพท์มารายงานให้แม่ทราบเพื่อที่แม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง

คืนวันนั้นค่อนข้างดึกมากแล้วน่าจะเป็นเวลาประมาณเกือบเที่ยงคืนพวกเรายังไม่หลับ พี่ชายใหญ่ก็โทรศัพท์เข้ามาบอกแม่ว่าตอนนี้จอดรถอยู่ที่ปั๊มน้ำมันซึ่งแม่รู้จักว่าอยู่ที่ไหน อีกประมาณร้อยกว่ากิโลเมตรก็จะถึงบ้านแล้วแม่ไม่ต้องเป็นห่วงให้เข้านอนก่อนเลย เดี๋ยวถึงบ้านแล้วจะเปิดประตูเข้าไปเองเอากุญแจบ้านมาด้วยแล้ว พอแม่ทราบว่าพี่ชายใหญ่อยู่ไม่ไกลนักเดี๋ยวก็จะถึงบ้านแล้วแม่ก็รู้สึกสบายใจอวยพรให้พี่ชายใหญ่เดินทางด้วยความปลอดภัยให้คุณพระคุ้มครองให้มาถึงบ้าน แล้วแม่และพวกเราก็เข้านอน หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งวันทุกคนพอหัวถึงหมอนก็หลับกันไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

กรี้ง….กรี้ง….กรี้ง….เสียงโทรศัพท์มือถือของภรรยาผมดังขึ้นมากลางดึกผมงัวเงียลืมตาตื่นสะกิดภรรยาของผมให้ลุกขึ้นรับโทรศัพท์ ผมเหลือบตาไปมองดูนาฬิกาเห็นว่าตอนนั้นเป็นเวลาประมาณตีสองกว่าๆ พอละสายตาจากนาฬิกามาก็เห็นภรรยาของผมพูดตอบทางโทรศัพท์ไปว่าค๊ะ….ค๊ะ…ค๊ะ…สามสี่ครั้งแล้วโทรศัพท์ก็ร่วงจากมือของภรรยาผมพร้อมกับเสียงร้องไห้โฮที่สุดแสนจะกลั้นไว้ได้ ผมตกใจขยับตัวเข้าไปประคองเธอพร้อมกับค่อยๆถามว่าเป็นอะไรเกิดอะไรขึ้นถึงได้ร้องไห้อย่างนี้ พอเธอตั้งสติได้ก็ละล่ำละลักบอกผมว่าพี่ชายใหญ่เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว….ความนิ่งอึ้งตะลึงงันก็เข้าครอบงำผมจนรู้สึกได้ว่าตัวชาไปพัก ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีท่ามกลางความมืดของกลางดึกของวันที่มีอากาศเย็นยะเยือก ความอ่อนเพลีย ความง่วง ความตกใจ ความเสียใจ ความเป็นห่วงแม่วัยเจ็ดสิบกว่าที่นอนอยู่ในห้องรอพี่ชายใหญ่ลูกชายสุดที่รักกลับมาบ้าน ไม่มีใครคิดหรือรู้สึกมาก่อนแม้แต่น้อยเลยว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างกระทันหันไม่ว่า แม่ พวกเรา ญาติพี่น้องคนอื่นๆ พี่สะใภ้หรือแม่แต่ตัวพี่ชายใหญ่เอง

หนังสือพิมพ์หัวสีของสำนักพิมพ์ต่างๆพาดหัวข่าวตัวโตๆให้เห็นอยู่เนืองๆ “ นักศึกษายอดกตัญญูนั่งกินข้าวถูกลูกหลงจากวัยรุ่นตีกันดับอนาถ ” “ คู่รักฮันนิมูนเรือล่มดับกลางทะเล ” “ นักศึกษากลับจากฉลองปริญญาเมาซิ่งรถตายหมู่ ” “ เจ้าหญิงแห่งเวลล์ประสบอุบัติเหตุสิ้นพระชนม์ ” “ เจ้าชายอัจฉริยะสิ้นพระชนม์กลางกระแสคลื่น ” “ วินาศกรรมตึกแฝดกลางมหานครใหญ่ตายนับพัน ” และยังมีเหตุการณ์อื่นๆอีกมากที่เกิดขึ้นกับผู้คนในโลกนี้โดยที่ไม่มีสัญญาณใดให้เห็นล่วงหน้ามาก่อนดังนั้นไม่ว่า ผมหรือคุณก็ตามจะแน่ใจได้อย่างไรว่า…เมื่อไหร่จะถึงตาเรา…หรือคุณคิดว่า…ไม่มีทาง…ฉันอยู่อีกนาน…

สัญญาณแห่งความตายไม่มีบอกใครล่วงหน้า มัจจุราชปฏิบัติการอย่างลับๆ ดังนั้นอย่าชะล่าใจจงทำเสียแต่วันนี้ ตอนนี้ วินาทีนี้ ในสิ่งที่คุณอยากทำแต่ยังไม่ได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการทำความดี การบอกรักคนที่คุณรัก การกล่าวขอโทษคนที่คุณยังไม่ได้ขอโทษ การบอกขอบคุณใครๆและสรรพสิ่งที่มีคุณแก่คุณ การให้อภัยแก่บุคคลและสรรพสิ่ง การให้โอกาสพี่น้อง เพื่อน ลูกน้อง การปกป้องดูแลสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ การให้ทานแก่ผู้ยากไร้ การให้ความเมตตาแก่ผู้ทุกข์ การตั้งอยู่ในความดีมีศีลมีธรรม เพื่อว่าสักวันหนึ่งเมื่อเวลามาถึงคุณก็จะ
….สู่สุขติ.…

1 ความคิดเห็น:

  1. ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เวลาไม่เคยคอยใคร และอดีตไม่เคยแก้ไขได้

    ตอบลบ